PRP คืออะไร? ทำไมถึงนิยมฉีดเพื่อช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวพรรณ
PRP หรือ Platelet-Rich Plasma เป็นสารที่ได้จากเกล็ดเลือดของตนเองที่มีความเข้มข้นสูง ผ่านกระบวนการ การปั่นแยกชั้น เพื่อให้ได้สารอาหารหรือพล่าม่าที่มีสีเหลืองใส ซึ่งมีความเข้มข้นของเกล็ดเลือดปกติเป็น 3-8 เท่า ของระดับเกล็ดเลือดปกติ ซึ่งจำเป็นต่อการฟื้นฟูส่วนต่างๆ ภายในร่างกายอย่างมาก โดยหลักๆ พลาสม่าเหล่านี้จะประกอบไปด้วย Growth Factor เช่น FGF, PDGF, EGF เป็นต้น
ซึ่งมีบทบาทในการช่วยเสริมสร้าง ทำให้เซลล์เจริญเติบโตซ่อมแซมเซลล์ กระตุ้นการหายของแผล จึงมีการนำมาใช้ในวงการความงามในปัจจุบันกันอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถฟื้นบำรุงได้ตั้งแต่เส้นผม หนังศีรษะ ใบหน้า ไปจนถึงข้อต่อกระดูกต่างๆ ที่เกิดจากการบาดเจ็บไม่รุนแรง เพื่อกระตุ้นให้ Stem Cell เกิดการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่เพื่อทดแทนในส่วนที่สึกหรอ รวมถึงกระตุ้นการทำงานของ Fibroblasts (เซลล์สร้างคอลลาเจน) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินใต้ผิวหนัง คอลลาเจนได้มากขึ้น และสร้างความยืดหยุ่นให้ชั้นผิวนั่นเอง
PRP เหมาะกับใคร และใช้ในการรักษาส่วนใดของร่างกายได้บ้าง?
เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นบำรุงผิวพรรณ
- เช่น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหน้า ลดการเกิดสิว ลดการอักเสบ ลดจุดด่างดำ ลดริ้วรอยร่องตื้น ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนหรือเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว
เหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะ
- เพราะ Growth Factor ใน PRP จะเสริมสร้างการกระตุ้นให้เซลล์รากผมเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น จึงเหมาะกับการบำรุงเส้นผม หรือเสริมในการปลูกผมอย่างมาก
เหมาะกับผู้ที่ต้องการเสริมบำรุงข้อต่อกระดูกต่างๆ
- เช่น ข้อเข่า ข้อต่อกระดูก ผิวข้อกระดูก หรือเนื้อเยื่อโครงสร้าง เพราะมีการกระตุ้นการทำงานของเซลล์คอลลาเจน จึงทำให้เกิดการผลิตของคอลลาเจนที่ช่วยบำรุงให้ข้อต่อแข็งแรง และมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
PRP มีขั้นตอนการทำอย่างไร?
- แพทย์จะทำการนำเลือดจากข้อพับแจนหรือหลังมือของคนไข้ประมาณ 8 - 15 ซีซี โดยจะเปิดเส้นด้วยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- นำเลือดที่ได้ใส่ลงในหลอดใส่เลือด ซึ่งเป็นหลอดพิเศษที่เรียกว่า Blood Tube ซึ่งเป็นลักษณะของหลอดเก็บเลือดที่มี Anti-Coagulant หรือสารต้านการแข็งตัวของเลือด โดยใช้เป็น Sodium Citrate ซึ่งจะบรรจุมาพร้อมในหลอด และมีค่า pH = 7 ที่มีค่าเป็นกลาง
- โดยนำเข้าเครื่องปั่นแรงเหวี่ยงสูง (Centrifuge) เพื่อให้ได้พล่าม่าเข้มข้นสีเหลืองใส ซึ่งจะต้องแยกชั้นกันระหว่างพลาสม่า (ชั้นบนสุด) เซลล์เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด (ชั้นกลาง) และเซลล์เม็ดเลือดแดง (ชั้นล่างสุด)
- แพทย์จะแยกเอาพลาสม่าสีเหลืองใสเข้มข้นชั้นบนสุดออกมา แล้วฉีด PRP ลงไปในจุดต่างๆ ที่ต้องการการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน
การดูแลตนเองก่อน และหลังทำ PRP
ก่อนได้รับการดูแล
- งดการทานยาที่ส่งผลให้เลือดออกง่ายก่อนทำการรักษา 1 - 3 วัน
- งดการทานยาที่ส่งผลให้เลือดแข็งตัวหรือเลือดหนืดอย่างน้อย 1 - 2 สัปดาห์
- งดการทานอาหารเสริม วิตามิน ยาสมุนไพร เพื่อลดการหนืดข้นของเลือด 1 - 2 สัปดาห์
- งดการดื่มเครื่องดื่มมึนเมาหรือแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ก่อนทำการรักษา 1 - 3 วัน
- ดื่มน้ำ 6 - 8 แก้ว หรือ 1 - 2 ลิตร ต่อวัน ก่อนทำการรักษาอย่างน้อย 3 - 5 วัน
- หากมีประวัติการแพ้ยา การแพ้ภูมิ หรือโรคประจำตัวอื่นๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการรักษา ซึ่งจำเป็นอย่างมาก
หลังได้รับการดูแล
- งดกด นวด คลึง หลังทำหัตถการเสร็จอย่างน้อย 3 - 4 ชั่วโมง
- หลังทำหัตถการอาจก่อให้เกิดอาการปวด ตึง ระคายเคือง สามารถประคบเย็นได้ประมาณ 15 - 20 นาที หรือหากมีอาการปวดมากๆ สามารถรับประทานยาพาราเซตามอนเพื่อบรรเทาอาการได้
- แต่หากมีอาการปวดมากจนเกินปกติ ควรพบแพทย์ด่วนเพื่อทำการรักษาและวินิจฉัยอาการในลำดับต่อไป
- หลังครบ 3 - 4 ชั่วโมง หรือจนกว่ารอยเข็มจะหายสนิท สามารถล้างหน้าหรือทำความสะอาดผิวหน้าได้ตามปกติอย่างเบามือ
- ในขณะทำความสะอาดผิวหน้าไม่ควรขัด ถู สครับ แรงๆ เด็ดขาด
- ดื่มน้ำ 6 - 8 แก้ว หรือ 1 - 2 ลิตร ต่อวัน อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร่างกายสดชื่น และช่วยบำรุงผิว เพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาด้วย PRP
- ทำซ้ำโดยเว้นระยะเวลา 3-4 สัปดาห์
เรียกได้ว่า PRP เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่มีราคาที่สามารถจับต้องได้ง่าย นิยมกันทำอย่างแพร่หลาย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญเลยคือปลอดภัยเพราะใช้เลือดของตนเอง อีกทั้งยังทำได้ตั้งแต่เส้นผม ศีรษะ ใบหน้า และตามร่างกายในส่วนต่างๆ
โดยก่อนจะเลือกทำหัตถการ PRP ต้องเลือกซื้อหรือศึกษาข้อมูลผ่านแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ โดย BEAUT ได้รวบรวมทั้งโปรโมชั่นเด็ดๆ ราคาดีๆ จากคลินิกชั้นนำ และบทความเรื่องความสวยจากกูรูตัวจริง!
สวยชัวร์ ต้องตัวจริง โหลด BEAUT ได้แล้วที่
ระบบ IOS : https://apple.co/3dCcGgr
ระบบ ANDROID : https://bit.ly/3LASLe9