หมวดอื่น ๆ

ลดหวาน ลดเค็ม ลดโรค ปรับพฤติกรรมการทานเพื่อสุขภาพดีอย่างยั่งยืน!

รู้หรือไม่ รสชาติในการทานอาหารส่งผลต่อสุขภาพได้มากกว่าที่คิดนะคะ ตามการสำรวจพฤติกรรมการทานของคนไทยในปี 2564 เทรนด์การสั่งซื้ออาหารบนออนไลน์นั้นเติบโตพุ่งสูงทะลุเพดาน แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ ไส้กรอก แซนด์วิช โยเกิร์ต ของหวาน และอาหารแปรรูปอื่นๆ ก็มีแนวโน้มที่จะพุ่งตามไปด้วย อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทไหนๆ ปริมาณของผักก็น้อยลงทุกที และแม้ว่าเราจะมีตัวช่วยเป็นคลินิกความสวยความงามแพร่หลายอยู่ทั่วทุกมุมถนน 

แต่การดูแลอาหารการกิน ดูแลตัวเองจากภายในก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม วันนี้ BEAUT ขอมาแชร์ทริคในการทานอาหารเพื่อสุขภาพ ปรับเพียง 4 พฤติกรรม ก็ทำให้มีสุขภาพผิว และสุขภาพร่างกายดีขึ้นได้

ลดหวาน 

เลิกได้เลิก กับวลีที่ว่า “น้ำตาลตก” เพราะนี่คือข้ออ้างยอดฮิตที่มาพร้อมโรคโดยไม่รู้ตัวค่ะ ก่อนอื่นเรามารู้จักกันก่อนว่าน้ำตาลนั้นคืออะไร มีประโยชน์ และโทษกับร่างกายอย่างไร?

น้ำตาลมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า คาร์โบไฮเดรต ที่ประกอบด้วยธาตคาร์บอน ไฮโตรเจน และออกซิเจน โดยน้ำตาลแต่ละชนิดก็มีที่มาที่แตกต่างกันไป

ข้อดีของน้ำตาล

  1. น้ำตาลช่วยเพิ่มความสุข ลดความเครียด นอกจากสร้างพลังงานแล้ว เมื่อรับประทานเข้าไปจะช่วยให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมา ช่วยให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย นี่แหละค่ะคือสาเหตุที่ใครๆ ก็ชอบทานรสหวาน
  2. น้ำตาลมักจะเป็นส่วนผสมสำคัญของสกินแคร์ หรือผลิตภัณฑ์สครับผิว เนื่องจากมีที่มาจากธรรมชาติ และที่สำคัญไม่เป็นอันตรายต่อผิวด้วย 
  3. น้ำตาลเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ใช่ลดหวานคือการไม่ทานน้ำตาลเลย เพราะที่จริงแล้วรสชาติทุกชนิดมีทั้งคุณ และโทษนะคะ น้ำตาลเองก็เป็นหนึ่งในสารที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ช่วยเรื่องกระบวนการเผาผลาญ กระบวนการขับของเสีย 
  4. ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ และเนื้อเยื้อภายในร่างกาย เพราะร่างกายล้วนต้องการพลังงานจากน้ำตาล 

ข้อเสียของน้ำตาล

  1. หากบริโภคน้ำตาลมากเกินไป มีโอกาสที่น้ำตาลจะเข้าไปสะสมในร่างกาย ส่งผลให้น้ำตาลเข้าไปสะสมในกระแสเลือด เป็นที่มาของ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคอ้วน หรือในบางรายส่งผลให้รูขุมขนกว้าง ผิวเสีย เพราะระบบการย่อยอาหารไม่ดี
  2. ความหวานอาจทำให้ตับอ่อนทำหน้าที่หนักเกินจำเป็นในการผลิตอินซูลิน ส่งผลให้ตับอ่อนเสื่อมสมรรถภาพทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง
  3. น้ำตาลที่สะสมในร่างกายจะส่งไปยังกระแสเลือด และ เป็นกรดไขมัน เพื่อนำไปสะสมในร่างกาย ส่วนที่เคลื่อนไหวน้อย เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นขา 

โดยองค์การอนามัยโรคได้ระบุไว้ชัดเจนเลยว่า ในหนึ่งวันเราไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6-8 ช้อนชา แต่ด้วยพฤติกรรมการทานของเราเปลี่ยนไป ทานอาหารสำเร็จรูป และดื่มน้ำหวาน ชา กาแฟ มากขึ้น ทำให้ต่อวันได้รับปริมาณน้ำตาลมาเกินจำเป็น รู้แบบนี้แล้วห้ามใจตัวเองกันหน่อย ลดหวานตั้งแต่วันนี้ก่อนจะเกิดโรคร้ายตามมาน้าา 

ลดมัน

หลายคนที่คิดว่าไขมันที่กินนั้นน้อยมาก แต่อย่าลืมนะคะว่าอาหารบางชนิดที่เราลืมสังเกตไปก็มีไขมันซ่อนอยู่ ตัวอย่างเช่น กุนเชียง เนย มายองเนส กะทิ หมูยอ หรือแม้แต่ชีสอาหารโปรดของใครหลายคนก็มีไขมันแฝงอยู่ 

การทานอาหารมันๆ อันที่จริงก็เป็นส่วนดีในการเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย แต่หากกินจนเกินปริมาณแล้วก็ส่งผลได้เกิดโรคได้ค่ะ 

โรคที่อาจจะเกิดขึ้นถ้ากินอาหารมันๆ เยอะเกินไป

1.โรคอ้วน

2.โรคความดันโลหิตสูง

3. ภาวะไขมันในเลือดสูง 

4.โรคหลอดเลือดหัวใจ

5. โรคสิว และโรคผิวหนังเรื้อรัง

แต่ละโรคเห็นแล้วต้องบอกเลยว่าขนลุก ทางที่ดีลดมัน ลดของทอดตั้งแต่วันนี้เพื่อสุขภาพดีที่กันดีกว่านะคะ 

ลดเค็ม 

อร่อยถูกใจกินอะไรก็ต้องใส่น้ำปลาพริกไว้ก่อน นี่แหละค่ะพฤติกรรมกินเค็มที่นำไปสู่การเกิดโรค แต่เมื่อพูดถึงการกินเค็มคนจะคิดถึงเครื่องปรุงอย่างเกลือ น้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสหอยนางรม หรือน้ำปลาร้า แต่แท้จริงแล้วอาหารแปรรูปที่เรากินอยู่ทุกวันเป็นอาหารหลักหรืออาหารว่าง ก็แฝงไปด้วยรสเค็ม และโซเดียมปริมาณมากที่เราไม่ทันระวัง ยกตัวอย่างเช่น อาหารจําพวกบะหมี่กึ่งสําเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว ไส้กรอก ลูกชิ้น หรือผักผลไม้ดอง

ในระยะแรกการกินเค็มจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดใดของร่างกาย จนกระทั่งเมื่อกินเค็มเกินขนาด ผลข้างเคียงจะค่อยๆ ปรากฏจนน่าตกใจ และนำไปสู่โรคเรื้อรังหลายชนิด

โรคที่อาจะเกิดขึ้นถ้ากินอาหารรสเค็ม

1.ความดันโลหิตสูง

2.โรคไต 

3.โรคเบาหวาน 

4.โรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร 

5.โรคกระดูก

ซึ่งทุกโรคเกิดมาจากร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป ส่งผลให้ความดันโลหิตภายในร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ อวัยวะภายในเริ่มอักเสบ

วิธีเลี่ยงการกินเค็มฉบับเร่งรัด

1.เลือกรับประทานอาหารสด หลีกเลี่ยงอาหารแช่แข็งหรืออาหารแปรรูป  

2.ฝึกอ่านฉลากโภชนาการก่อนเลือกซื้ออาหาร เลือกอาหารที่มีปริมาณของโซเดียมให้น้อยที่สุด 

3.ดื่มน้ำเปล่าแทนที่น้ำหวานหรือน้ำผลไม้ เพราะในเครื่องดื่มก็มีโซเดียมแฝงอยู่โดยเฉพาะน้ำอัดลม

4.ชิมก่อนปรุง 

เพิ่มผักและผลไม้ในมื้ออาหาร

นอกจากลดปัจจัยทำร้ายแล้ว การเพิ่มการกินผักคือฮีโร่ในการกู้สุขภาพค่ะ แต่ในปัจจุบัน จากการสำรวจการใช้ชีวิตในสังคมเมือง พบว่าคนไทยกินผักผลไม้ไม่เพียงพอในแต่ละวัน คนไทย 4 ใน 10 คนเท่านั้นที่กินผักพอ ซึ่ง FAO และ WHO แนะนำให้กินผักผลไม้อย่างน้อยวันละ 4-6 ขีดเพื่อ ลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้

โดยเฉพาะถ้าเรายังฝืนที่จะกินรสจัด และไม่เพิ่มปริมาณผักในมื้ออาหาร โรคที่จะตามมาคือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ซึ่งข้อมูลจาก Thaihealth Watch สสส. ร่วมกับสำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ รวบรวมสถิติสุขภาพคนไทย 10 ปีย้อนหลัง ปี 53-62 คนไทยมีแนวโน้มตายด้วยมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงขึ้น 2.4 เท่า ถ้าจะหยุดโรค รีบูสต์ร่างกายให้เริ่มเลยทันทีตอนนี้ยังไม่สายเกินไปแน่นอน 

นอกจากความสวยสดใสที่เราต้องดูแล สุขภาพก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ละเลยไม่ได้ การปรับอาหารการกินเป็นเรื่องใหญ่แต่ก็จะส่งผลดีในระยะยาวสำหรับทุกคน ติดตามข้อมูลเรื่องความงาม และสุขภาพดีๆ ได้เพิ่มเติม กด Follow หรือ Download BEAUT APP ไว้ในมือถือรับรองว่าไม่พลาดเรื่องดี และโปรเด็ดๆ 

สวยชัวร์ ต้องตัวจริง โหลด BEAUT ได้แล้วที่ 

ระบบ IOS : https://apple.co/3dCcGgr 

ระบบ ANDROID : https://bit.ly/3LASLe9 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.thaipost.net/main/detail/89356 

https://www.rama.mahidol.ac.th/rama_hospital/th/services/knowledge/11132020-1637

โปรโมชั่นแนะนำ

ดาวน์โหลด BEAUT

สวยชัวร์ ต้องตัวจริง (ไม่จกตา)

บทความอื่น ๆ