รวมมาให้แล้วกับ Botox 5 แบรนด์ ที่ผ่านอย. ไทย

‍

‘โบท็อกซ์’ คืออะไร?

‘โบท็อกซ์’ คือชื่อทางการค้าของ ‘โบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิดเอ (Botulinum Toxin Type A)’ เป็นสารสกัดที่สกัดมาจากแบคทีเรียชนิดสายพันธุ์เฉพาะชื่อว่า (Clostridium Botulinum) ซึ่งสารสกัดดังกล่าวจะออกฤทธิ์ไปจับกับปลายประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ ทำให้ปลายประสาทไม่สามารถทำการควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัวออกในที่สุด

ปัจจุบันมีการนำ ‘โบท็อกซ์’ เข้ามาใช้ในวงการเสริมความงาม เพื่อช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อในหลายๆ จุด เช่น ริ้วรอยจากบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว หรือหางตา รวมถึงลดขนาดของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ลดขนาดของกรามหรือน่อง ได้อีกด้วย

‍

โบท็อกซ์ที่ผ่านมาตรฐานอย. ไทย มีกี่ยี่ห้อ

ในประเทศไทยของเรามี Botulinum Toxin มากมายหลากหลายยี่ห้อให้เลือก ซึ่งหลักๆ มีเพียง 5 สัญชาติเท่านั้นที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2022 ดังนี้

1) Botox Allergan สัญชาติอเมริกา‍

เรียกได้ว่าเป็น Original ของ Botulinum Toxin ที่มีประวัติการใช้ในวงการแพทย์กันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1989 และได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างด้วยผลวิจัยมากกว่า 3,500 ฉบับ มาพร้อมคุณสมบัติของตัวยาที่ได้รับ FDA ของอเมริกาเป็นแบรนด์แรก มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% ซึ่งช่วยลดโอกาสการดื้อยาน้อย รวมถึงตัวยากระจายวงตัวแคบ แม่นยำ เห็นผลไว้ ออกฤทธิ์เร็ว อยู่ได้นาน‍

2) Botox Dysport สัญชาติอังกฤษ‍

หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ABO Botox สำหรับ Botulinum Toxin อย่าง Dysport ต่างจาก Allergan ตรงที่ด้วยความบริสุทธิ์ของตัวยาที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้การกระจายตัวเยอะ กว้าง ไม่กระจุกตัวแคบ เพราะโมเลกุลของตัวยาที่มีขนาดเล็กมากที่สุด จึงเหมาะสำหรับใช้ฉีดบริเวณกว้าง เช่น ฉีดลดเหงื่อ, ลดต้นแขน, ลดน่อง เป็นต้น

3) Botox Xeomin สัญชาติเยอรมัน‍

เป็น Botulinum Toxin สมัยใหม่ ที่พัฒนามาจาก Allergan กับ Dysport ซึ่งเป็นการนำข้อดีของทั้งสองตัวแรกมาปรับใช้ โดยใช้เทคโนโลยีในการผลิตซึ่งจะคัดแยกโปรตีนที่ไม่จำเป็นออกไปจนเหลือแต่โมเลกุลขนาดเล็ก และบริสุทธิ์ที่สุด จึงช่วยลดโอกาสการดื้อยาน้อยลง ตัวยาจะกระจายวงกว้างไม่กระจุกตัวแคบ ทำให้มีประสิทธิภาพในการรักษาดีมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีเคสที่มีการดื้อโบท็อกซ์มากๆ นั่นเอง

4) Botox Nabota สัญชาติเกาหลี‍

หรือชื่อทางการค้าว่า NABO (นาโบ) เรียกได้ว่าเป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลีเทียบเคียงประสิทธิภาพของความบริสุทธิ์ใกล้เคียงกับอเมริกาเลยก็ว่าได้ ด้วยคุณสมบัติในการออกฤทธิ์ที่เร็วกว่าโบท็อกซ์สัญชาติเดียวกัน มีความบริสุทธิ์สูง ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ได้รับสิทธิบัตรเฉพาะ"HI-PURE Technology" ทำให้โบสามารถออกฤทธิ์ได้ทั้งหมด 100% โดยปราศจากสารปนเปื้อน และจุดเด่นอีกอย่างคือเป็นโบสัญชาติเกาหลีแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่ได้รับการรับรองจาก อย. ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ U.S. FDA Approved ซึ่งเป็นโบที่คุณภาพดีราคาสบายกระเป๋าที่น่าใช้อย่างยิ่ง

5) Botox Aestox สัญชาติเกาหลี‍

เป็นอีกหนึ่ง Botulinum Toxin จากฝั่งเกาหลีที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน ด้วยคุณสมบัติของตัวยาที่มีความเสถียรของยาที่บรรจุในขวด และมีความสุทธิสูง ราคาย่อมเยาว์ ออกฤทธิ์ไว ให้ผลลัพธ์หลังฉีดที่ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ 

‍

โบท็อกซ์แต่ละสัญชาติแตกต่างกันอย่างไร?

Botox สัญชาติอเมริกา และยุโรป (Allerga, Dysport, Xeomin)

จะโดดเด่นในเรื่องของความบริสุทธิ์ที่มีมากถึง 99.5% ทำให้ได้ผลลัพธ์การออกฤทธิ์ที่นานกว่าสัญชาติเกาหลี และสามารถช่วยลดโอกาสมากดื้อยาได้มากกว่า รวมถึงยังมีการรับรองด้วยผลการวิจัยอีกมากมาย ซึ่งในบางยี่ห้อมีการออกแบบ และพัฒนาเทคโนโลยีในการสกัดจึงต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการฉีดเพื่อแก้ไขปัญหา และด้วยคุณภาพที่สูง จึงมีราคาที่สูงตามมานั่นเอง

Botox สัญชาติเกาหลี (Nabota และ Aestox)

จะโดดเด่นในเรื่องของราคาที่ย่อมเยาว์ และการออกฤทธิ์ที่รวดเร็ว โดยจะให้ผลลัพธ์หลังการฉีดได้ทันใจ สามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างเร่งด่วน ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีประสิทธิภาพและระยะเวลาในการออกฤทธิ์แตกต่างกันไป

‍

เลือกฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี?

สำหรับใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกฉีดโบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี? หรือฉีดที่คลินิกไหนปัง? BEAUT แนะนำให้เลือกจากความน่าเชื่อถือ และมาตรฐานของคลินิกเป็นหลัก ซึ่งดูได้จาก 

1) สถานบริการจะต้องได้มาตรฐาน‍

โดยสถานบริการจะต้องมีป้ายชื่อสถานพยาบาล เลขที่ใบอนุญาต จำนวน 11 หลัก ติดไว้ที่หน้าคลินิก รวมถึงแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการ และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลในที่ที่เห็นได้ชัดเจน อีกทั้งแพทย์ผู้ทำหัตถการต่างๆ จะต้องตรวจสอบ และได้รับการรับรองจากแพทยสภา ซึ่งสามารถตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ www.tmc.or.th/check_md ‍

2) คลินิกมีรีวิวที่น่าเชื่อถือจากผู้ใช้บริการจริง‍

โดยพิจารณาจากแหล่งรีวิวที่เป็นกลาง ซึ่งรีวิวจะต้องมีความเป็นปัจจุบัน อัพเดตอย่างสม่ำเสมอ และรีวิวนั้นควรเป็นคลิปวิดีโอก่อนได้รับการบริการ และหลังได้รับการบริการ เปรียบเทียบผลการรักษาอย่างชัดเจน‍

3) ค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สมเหตุสมผล‍

ไม่สูงจนเกินไปหรือราคาต่ำจนเกินไป โดยความแตกต่างของค่าใช้จ่าย มาจากประสบการณ์ของแพทย์ รวมถึงแสดงอัตราค่าบริการ และสามารถสอบถามได้‍

4) ตัวยา ผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่ใช้จะต้องผ่านมาตรฐานอย. ไทย‍

มีบริษัทนำเข้ารับรองที่เชื่อถือได้ พร้อมแสดงรหัสหรือรายละเอียดที่สามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งตัวยาโบท็อกซ์นั้นจะต้องแกะกล่อง และเปิดขวดใหม่ให้ดูต่อหน้า รวมถึงให้กล่องคนไข้กลับบ้านทุกครั้งได้‍

5) มีการนัดติดตามผลหลังได้รับการรักษา‍

รวมถึงมีช่องทางให้สอบถามข้อมูลทั้งกับพนักงาน และแพทย์โดยตรงได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

‍

เพราะเรามีหน้าเดียว! จะฉีดโบท็อกซ์ทั้งทีไม่ใช่ฉีดที่ไหนก็ได้ ให้ BEAUT คัดสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ ทั้งดีลเด็ด ราคาโดน และคลินิกดัง ซึ่งปลอดภัย ได้มาตรฐาน ในราคาเบาๆ ที่ทุกคนเข้าถึงได้!

‍

‍