EP.3 วิธีสังเกตโบท็อกซ์ปลอม

โบท็อกซ์หรือ Botulinumtoxin (โบทูลินั่มท็อกซิน)คือ นวัตกรรมที่ได้รับความนิยมมากในวงการความสวยความงามเพราะมีจุดเด่นที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจด้วยการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้ายกกระชับผิวได้หลายบริเวณทั่วร่างและช่วยลดกลิ่นเหงื่อได้ สำหรับยี่ห้อ โบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ Allergan, Dysport,Xeomin, Nabota, Botulax และ BTXA

ซึ่งการค้นหาข้อมูลจากคลินิกชั้นนำพบว่า โบท็อกซ์ของประเทศเกาหลีอย่าง Nabota และ Botulax เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะมีระดับราคาที่ไม่สูงมากเห็นผลลัพธ์ได้ดีและมีการคงสภาพของตัวยานาน

โบท็อกซ์ของแท้ของปลอมต่างกันอย่างไร

แม้ว่าประสิทธิภาพของตัวยาโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อจะมีความรวดเร็วและคงสภาพที่แตกต่างกันไปแต่หากเป็นโบท็อกซ์ปลอมแม้จะมีราคาที่ถูกกว่าของแท้แต่ก็เสื่อมคุณภาพไวกว่าเช่นกันและอาจเจ็บตัวฟรีๆ เพราะโบท็อกซ์ปลอมทิ้งสารตกค้างเอาไว้ในร่างกาย ซึ่งวิธีการสังเกตความแตกต่างของโบท็อกซ์ หรือ Botulinum toxin (โบทูลินั่มท็อกซิน)แท้และปลอมที่สามารถใช้กับ Botox ทุกยี่ห้อเช็กเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ดังนี้

- ตัวกล่องยังถูกปิดสนิทและมีแผ่นพลาสติกซีลป้องกันการเปิดบริเวณปากกล่อง

- ตรวจสอบปริมาณยูนิตของผลิตภัณฑ์ว่าตรงกับที่แจ้งเอาไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทผู้ผลิตหรือไม่เช่น Allergan Botox จะมีแต่ปริมาณ100 ยูนิตต่อขวดเท่านั้น เป็นต้น ซึ่งผู้ใช้บริการควรระมัดระวังคลินิกที่ให้บริการฉีดยูนิตไม่เกิน50 หรือ 100 ยูนิตเพราะผู้ใช้บริการจะไม่ได้เห็นกระบวนการในการเปิดกล่องจึงไม่สามารถตรวจสอบของแท้/ปลอมได้

- ตรวจสอบเลขLot การผลิตว่าบนกล่องและบนขวดยาตรงกันหรือไม่

นอกจากนี้โดยปกติแล้วตัวยาโบท็อกซ์จะมีลักษณะข้นเคลือบบริเวณขวดยาเอาไว้จึงต้องใช้น้ำเกลือผสมเพื่อให้ได้ตัวยาที่นำมาใช้หากพบว่ามีเปิดขวดใหม่แต่ไม่ใส่น้ำเกลือลงไปผสมให้สันนิฐานเอาไว้ก่อนว่าเป็นของปลอม

ผลเสียเมื่อฉีดโบท็อกซ์ของปลอม

หลายคนที่คิดว่าการฉีด Botulinum toxin (โบทูลินั่มท็อกซิน) หรือ โบท็อกซ์ คุ้มค่ากว่าเพราะไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อเปิดขวดใหม่แต่การใช้โบท็อกซ์ปลอมก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น

- ก่อให้เกิดสารตกค้างใต้ผิวหนังทำให้เกิดเป็นเชื้อดื้อยาใครที่กำลังประสบปัญหาฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่เห็นผลอาจเป็นไปได้ว่ามีสารตกค้างบริเวณใต้ผิวหนังที่ทำให้เกิดเป็นเชื้อดื้อยาซึ่งมีสาเหตุจากการใช้โบท็อกซ์ปลอมก็เป็นได้เพราะโบท็อกซ์แท้จะความบริสุทธิ์สูงจึงไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างใต้ผิวหนัง

- ใบหน้าผิดรูป เสียสมดุลโบท็อกซ์ของปลอมมักไม่มีความเสถียรในการกระจายตัวทำให้ตัวยาไหลแผ่ไปยังพื้นที่ที่ไม่ต้องการจนทำให้หน้าผิดรูปหนังตาตก คิ้วตก ปากเบี้ยวได้

- เกิดอาการแพ้ ติดเชื้อ เนื่องจากกรรมวิธีในการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานจึงทำให้ Botox ปลอมมักฉีดแล้วคงสภาพได้ไม่นาน หรือไม่เห็นผล รวมถึงยังทำให้เกิดการติดเชื้อได้

จากข้อมูลข้างต้นเป็นเหตุผลว่าหากต้องการอัปความสวยอย่างมั่นใจต้องเลือกฉีดBotulinum toxin (โบทูลินั่มท็อกซิน) หรือ โบท็อกซ์ของแท้และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยลดความเสี่ยงต่อร่างกายได้เพื่อความสวยที่มาพร้อมกับปลอดภัยและสบายใจนั่นเอง

ที่มาข้อมูล

-         https://www.vsquareclinic.com/tips/botox-allergan/

-         https://www.mvitaclinic.com/xeomin-botox-โบท็อกซ์-เยอรมัน

-         https://www.konvy.com/beautydeal/service/botox-btxa-เลือกได้-1-บริเวณ-(หน้าผาก,-ตีนกา-หรือหว่างคิ้ว)-1-ครั้ง-12540.html

‍